อาร์เซนอลเป็นทีมฟุตบอลที่มีประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่ และสร้างชื่อในวงการลูกหนังอังกฤษมาอย่างยาวนานเลย ตั้งแต่ยุคที่เล่นในสนามไฮบิวรี (Highbury) ที่เป็นเหมือนบ้านแห่งความสำเร็จในอดีต จนมาถึงสนามเอมิเรตส์สเตเดียม (Emirates Stadium) ที่เป็นรังเหย้าหลังใหม่ในปัจจุบัน แต่รู้มั้ยว่า ความยิ่งใหญ่ของอาร์เซนอลไม่ได้มีแค่เรื่องสนามหรือถ้วยรางวัลนะครับ แต่ยังมาจากเหล่านักเตะที่สร้างผลงานสุดยอดจนกลายเป็นตำนานของสโมสรด้วย วันนี้ผมจะพาทุกคนมารู้จักกับ 6 นักเตะอาร์เซนอล คนสำคัญในยุคปัจจุบัน ที่กำลังพาอาร์เซนอลก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างาม ไม่ว่าจะเป็นดาวรุ่งจากอคาเดมีที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง กัปตันทีมสุดแกร่งที่นำทีมได้อย่างยอดเยี่ยม หรือแนวรับที่แข็งแกร่งราวกำแพงเหล็ก พวกเขาทุกคนกำลังร่วมกันเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับสโมสรแห่งนี้
ประวัติสโมสรอาร์เซนอล
รู้มั้ยครับว่า อาร์เซนอล (Arsenal Football Club) เป็นทีมดังระดับโลกและเป็นหนึ่งในทีมยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ที่มาของทีมนี่สนุกมากเลยครับ เริ่มจากปี ค.ศ. 1886 มีกลุ่มคนงานโรงงานอาวุธที่ย่านวูลวิช (Woolwich) ในลอนดอนรวมตัวกันตั้งทีม ตอนแรกใช้ชื่อว่า “Dial Square” แล้วเปลี่ยนเป็น “Royal Arsenal” ก่อนจะมาเป็น “Arsenal” อย่างที่เรารู้จักกันทุกวันนี้
จุดเริ่มต้น
ช่วงแรกๆ ทีมลงเล่นในลีกดิวิชันสอง พอถึงปี 1893 ก็เป็นทีมแรกจากลอนดอนที่ได้เล่นในฟุตบอลลีกอังกฤษ หลังจากนั้นก็ย้ายมาอยู่สนาม ไฮบิวรี (Highbury) ในปี 1913 และในปี 1919 ได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นดิวิชันหนึ่งแบบถาวรครับ
ความสำเร็จในยุคเฮอร์เบิร์ต แชปแมน
จุดพลิกผันสำคัญมาในปี 1925 เมื่อเฮอร์เบิร์ต แชปแมน (Herbert Chapman) เข้ามาคุมทีม ผมว่าเขาเป็นคนที่เปลี่ยนแปลงทีมมากเลยนะ เพราะเขานำระบบการเล่นใหม่ๆ มาใช้ และวางรากฐานที่แข็งแกร่งให้ทีม จนคว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกในฤดูกาล 1930/31 และยังรักษาความยอดเยี่ยมนี้ไว้ได้ตลอดยุค 1930
ยุคทองของอาร์เซนอล
ผมต้องบอกว่าอาร์เซนอลเป็นหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษเลยนะครับ โดยเฉพาะตอนที่ อาร์แซน เวนเกอร์ (Arsène Wenger) เข้ามาคุมทีมในปี 1996 เขาพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง 3 สมัย และที่สุดยอดที่สุดคือฤดูกาล 2003/04 ที่ไม่แพ้ใครเลยตลอดทั้งซีซั่น จนได้ฉายา “The Invincibles” สุดเท่ห์ไปเลย
สนามเหย้า
พอถึงปี 2006 ย้ายจากไฮบิวรีมาอยู่ที่บ้านใหม่อย่าง เอมิเรตส์สเตเดียม (Emirates Stadium) เลยนะ สนามนี้ยิ่งใหญ่มากๆ จุคนได้ตั้ง 60,000 คน และถือว่าเป็นหนึ่งในสนามที่ทันสมัยที่สุดในยุโรปเลยล่ะ
ความสำเร็จและเกียรติยศ
- ผมภูมิใจนำเสนอแชมป์ พรีเมียร์ลีก 13 สมัย
- และที่เจ๋งสุดๆ คือแชมป์ FA Cup 14 สมัย ซึ่งมากที่สุดในอังกฤษเลยนะ
- แถมยังมีแชมป์ ลีกคัพ อีก 2 สมัย
- และแชมป์ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัยด้วย
เอกลักษณ์ของทีม
ตราสโมสรที่เป็นรูปปืนใหญ่นั้นเล่าเรื่องราวความเป็นมาที่เริ่มจากโรงงานผลิตอาวุธได้อย่างดีเลยครับ และคำขวัญ “Victory Through Harmony” หรือ “ชัยชนะเกิดจากความสามัคคี” นั้นเป็นแรงบันดาลใจให้แฟนอาร์เซนอลทั่วโลกครับ ปัจจุบัน อาร์เซนอลเป็นทีมที่มีแฟนบอลทั่วโลกติดตามเชียร์อย่างล้นหลามครับ และยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างความสำเร็จในทุกๆ การแข่งขันต่อไปครับ
6 นักเตะอาร์เซนอล สร้างตำนานแห่งไฮบิวรีและเอมิเรตส์
1. บูกาโย่ ซาก้า (Bukayo Saka)
บูกาโย่ ซาก้า เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 2001 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เขาเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลในอคาเดมีของอาร์เซนอลตั้งแต่อายุ 7 ปี และพัฒนาทักษะจนก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2018 ซาก้าเป็นนักเตะที่มีความสามารถหลากหลายและได้รับความไว้วางใจให้ลงเล่นตั้งแต่อายุยังน้อย
บทบาทสำคัญ
ซาก้าทำหน้าที่หลักในตำแหน่งปีกขวา โดยมีบทบาทสำคัญในเกมรุกของอาร์เซนอล เขาสามารถสร้างโอกาสให้กับทีมและทำประตูในช่วงเวลาสำคัญได้ไม่ว่าจะเป็นแมทช์ที่แข่งกับนักเตะแมนยูหรือสเปอร์ส นอกจากนี้ เขายังเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ผู้จัดการทีมพึ่งพาในเกมใหญ่และสถานการณ์ที่กดดัน
ความสำเร็จ
- พาทีมชาติอังกฤษเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในศึกยูโร 2020
- เป็นผู้เล่นคนสำคัญในทีมอาร์เซนอลที่ช่วยทีมจบในอันดับสูงในพรีเมียร์ลีก
- ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของสโมสรหลายครั้งจากผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง
สไตล์การเล่น
ซาก้ามีจุดเด่นในเรื่องของความเร็ว ความคล่องตัว และการเลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้ ทักษะการจ่ายบอลและการยิงประตูของเขาเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สร้างความแตกต่างในเกม นอกจากนี้ เขายังมีความสามารถในการปรับตัวเล่นในตำแหน่งอื่น ๆ ได้อย่างดี
2. มาร์ติน โอเดการ์ด (Martin Ødegaard)
มาร์ติน โอเดการ์ด เกิดเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1998 ที่เมืองดรัมเมน ประเทศนอร์เวย์ เขาเริ่มต้นอาชีพฟุตบอลกับสโมสรสตรอมก็อดเซ็ต (Strømsgodset) ในประเทศบ้านเกิด และสร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็วในฐานะดาวรุ่งพรสวรรค์สูง จนกระทั่งย้ายไปเรอัล มาดริดในปี 2015 ด้วยวัยเพียง 16 ปี หลังจากประสบการณ์ยืมตัวในลีกต่าง ๆ โอเดการ์ดย้ายมาร่วมทีมอาร์เซนอลแบบถาวรในปี 2021 และได้รับตำแหน่งกัปตันทีมในปี 2022
บทบาทสำคัญ
โอเดการ์ดทำหน้าที่เป็นกองกลางตัวรุกและหัวใจของเกมรุกในทีมอาร์เซนอล เขามีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีม และยังเป็นผู้ที่คอยควบคุมจังหวะเกมในแดนกลาง ด้วยวิสัยทัศน์และความแม่นยำในการจ่ายบอล โอเดการ์ดเป็นผู้นำที่พาทีมเดินหน้าสู่ความสำเร็จ
ความสำเร็จ
- ช่วยอาร์เซนอลจบอันดับสูงในพรีเมียร์ลีกและกลับมาท้าชิงแชมป์อีกครั้ง
- ได้รับการยอมรับเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในลีก
- มีส่วนช่วยให้ทีมชาตินอร์เวย์กลับมาแข่งขันในระดับสูง
สไตล์การเล่น
โอเดการ์ดมีจุดเด่นที่ความฉลาดในการเล่น วิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยม และความสามารถในการจ่ายบอลที่เฉียบคม เขายังมีทักษะการเลี้ยงบอลที่ดีและความสามารถในการยิงไกลได้อย่างแม่นยำ การควบคุมจังหวะเกมและความสงบนิ่งในสถานการณ์กดดันทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่ทรงคุณค่าในสนาม
3. กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (Gabriel Martinelli)
กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ เกิดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ. 2001 ที่เมืองกัวรูญอส ประเทศบราซิล เขาเริ่มต้นอาชีพฟุตบอลกับสโมสรอิตูอาโน (Ituano) ในบราซิล และด้วยผลงานที่โดดเด่นในระดับเยาวชน ทำให้อาร์เซนอลคว้าตัวเขาไปร่วมทีมในปี 2019 ด้วยวัยเพียง 18 ปี มาร์ติเนลลี่สร้างความประทับใจตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก
บทบาทสำคัญ
มาร์ติเนลลี่เป็นตัวรุกคนสำคัญในแนวหน้าของอาร์เซนอล โดยเขามักจะเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายหรือกองหน้า ด้วยความเร็วและความเฉียบคม เขามีบทบาทในการสร้างโอกาสและจบสกอร์ให้กับทีมในสถานการณ์สำคัญ
ความสำเร็จ
- คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของอาร์เซนอลในหมวดเยาวชน
- ทำประตูสำคัญในหลายการแข่งขัน เช่น การยิงใส่เชลซีในพรีเมียร์ลีก
- มีส่วนช่วยให้อาร์เซนอลจบในอันดับสูงและเป็นตัวเต็งในพรีเมียร์ลีก
สไตล์การเล่น
มาร์ติเนลลี่มีจุดเด่นที่ความเร็ว ความคล่องตัว และพลังในการเล่นเกมรุก เขามักเลี้ยงบอลผ่านแนวรับคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย และมีความสามารถในการจบสกอร์ทั้งในกรอบเขตโทษและการยิงไกล ความดุดันและพลังงานของเขาทำให้แนวรับฝ่ายตรงข้ามต้องคอยระวังอยู่เสมอ
4. กาเบรียล มากัลเญส (Gabriel Magalhães)
กาเบรียล มากัลเญส เกิดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 1997 ที่เมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล เขาเริ่มต้นอาชีพฟุตบอลกับสโมสรอาไว (Avaí FC) ในบราซิล ก่อนที่จะย้ายไปยังยุโรปในปี 2017 เพื่อร่วมทีมลีลล์ (Lille OSC) ในฝรั่งเศส ผลงานที่ยอดเยี่ยมของเขาทำให้อาร์เซนอลดึงตัวมาร่วมทีมในปี 2020 ด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติของสโมสรในเวลานั้น
บทบาทสำคัญ
กาเบรียลทำหน้าที่เป็นกองหลังตัวกลางที่แข็งแกร่งและมีบทบาทสำคัญในการสร้างแนวรับที่มั่นคงให้กับอาร์เซนอล เขาเป็นตัวเลือกแรกในแผงหลังของทีม และมักจะเป็นผู้นำในสถานการณ์ที่ต้องรับแรงกดดันจากคู่แข่ง
ความสำเร็จ
- มีส่วนช่วยให้อาร์เซนอลจบในอันดับสูงในพรีเมียร์ลีก
- ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในลีก ด้วยผลงานการป้องกันที่สม่ำเสมอ
- ทำประตูสำคัญจากลูกตั้งเตะ ซึ่งเพิ่มมิติให้กับเกมรุกของทีม
สไตล์การเล่น
กาเบรียลมีจุดเด่นในเรื่องของการเล่นลูกกลางอากาศ การเข้าสกัดบอลที่แม่นยำ และความแข็งแกร่งในสถานการณ์ตัวต่อตัว เขายังมีความสามารถในการเปิดเกมจากแดนหลังด้วยการจ่ายบอลที่แม่นยำ ทำให้เขาเป็นกองหลังที่ครบเครื่องและสำคัญต่อเกมของทีม
5. อารอน แรมส์เดล (Aaron Ramsdale)
อารอน แรมส์เดล เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1998 ที่เมืองสโต๊ค-ออน-เทรนต์ ประเทศอังกฤษ เขาเริ่มต้นอาชีพฟุตบอลกับอคาเดมีของเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับบอร์นมัธ และต่อมาเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดในช่วงสั้น ๆ หลังจากนั้น อาร์เซนอลเซ็นสัญญาคว้าตัวเขามาร่วมทีมในปี 2021 ด้วยค่าตัวที่สูง ซึ่งทำให้เกิดคำถามในช่วงแรก แต่แรมส์เดลตอบแทนความเชื่อมั่นด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม
บทบาทสำคัญ
แรมส์เดลรับหน้าที่เป็นผู้รักษาประตูตัวจริงของอาร์เซนอล ด้วยความสามารถในการเซฟลูกยากและการเล่นที่มั่นคง เขามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ทีมเก็บคะแนนสำคัญได้หลายครั้ง ทั้งจากการป้องกันลูกยิงในจังหวะสำคัญและการสั่งการแนวรับ
ความสำเร็จ
- ได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากผลงานที่โดดเด่นในฤดูกาลแรกกับอาร์เซนอล
- ติดทีมชาติอังกฤษและมีส่วนร่วมในรายการแข่งขันระดับนานาชาติ
- เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้อาร์เซนอลกลับมาอยู่ในกลุ่มทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก
สไตล์การเล่น
แรมส์เดลมีจุดเด่นในเรื่องของปฏิกิริยาที่รวดเร็ว ความสามารถในการเซฟลูกยาก และความนิ่งในสถานการณ์กดดัน นอกจากนี้ เขายังมีทักษะในการใช้เท้าเปิดเกมจากแดนหลัง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในสไตล์การเล่นของอาร์เซนอล
6. โธมัส ปาร์เตย์ (Thomas Partey)
โธมัส ปาร์เตย์ เกิดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ. 1993 ที่เมืองโอดูมาเซ ประเทศกานา เขาเริ่มต้นอาชีพฟุตบอลในระบบเยาวชนของแอตเลติโก มาดริด และค่อย ๆ พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในทีมชุดใหญ่ ด้วยผลงานที่โดดเด่นในลาลีกา อาร์เซนอลจึงเซ็นสัญญาคว้าตัวปาร์เตย์ในปี 2020 ด้วยค่าฉีกสัญญา 45 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการลงทุนสำคัญของสโมสร
บทบาทสำคัญ
ปาร์เตย์ทำหน้าที่เป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่คอยสร้างสมดุลให้กับทีม เขามีบทบาทสำคัญทั้งในเกมรับและเกมรุก ด้วยการตัดเกมของคู่ต่อสู้ การเชื่อมเกมจากแดนหลังไปสู่แดนหน้า และการคุมจังหวะเกม เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทีมขาดไม่ได้
ความสำเร็จ
- ช่วยอาร์เซนอลสร้างความแข็งแกร่งในแดนกลาง ทำให้ทีมสามารถแข่งขันกับทีมระดับท็อปในพรีเมียร์ลีกได้
- คว้ารางวัลแอฟริกัน มิดฟิลด์ยอดเยี่ยมในช่วงที่เล่นให้กับแอตเลติโก มาดริด
- มีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของทีมชาติในทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติ
สไตล์การเล่น
ปาร์เตย์มีจุดเด่นในเรื่องของการตัดบอลและการเข้าสกัดที่แม่นยำ รวมถึงการอ่านเกมที่ยอดเยี่ยม เขายังสามารถพาบอลขึ้นหน้าด้วยตัวเองและมีความแม่นยำในการจ่ายบอลระยะไกล ความแข็งแกร่งทางร่างกายและความเยือกเย็นในการเล่นช่วยให้ทีมมีความสมดุลและมั่นคง
นักเตะอาร์เซนอล ทั้ง 6 คนนี้ไม่ใช่แค่นักเตะธรรมดาๆ ที่เล่นในสนามแล้วก็จบ แต่พวกเขาคือตัวแทนของความมุ่งมั่นและความทุ่มเทที่ทำให้อาร์เซนอลกลับมาแกร่งอีกครั้งไม่ว่าจะแข่งกับทีมดังอย่างนักเตะลิเวอร์พูล เชลซี หรือแมนยู พวกเขาเป็นเหมือนจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ทำให้ทีมกลับมายิ่งใหญ่ และสร้างแรงบันดาลใจให้แฟนบอลทั่วโลก ผมว่าการย้ายจากไฮบิวรีมาเอมิเรตส์ เป็นเหมือนการเริ่มต้นบทใหม่ของอาร์เซนอล และตอนนี้เรามีทีมที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์และหัวใจนักสู้ นักเตะเหล่านี้กำลังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ และผมเชื่อว่าพวกเขาจะพาทีมไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตอย่างแน่นอนครับ
คำถามที่พบบ่อย
1. ทำไมนักเตะทั้ง 6 คนนี้ถึงได้รับการยกย่องขนาดนี้?
ก็เพราะพวกเขาเป็นกำลังสำคัญของทีมในตอนนี้นะครับ แต่ละคนมีความสามารถพิเศษที่แตกต่างกันไป แถมยังเป็นแรงบันดาลใจให้แฟนบอลได้ด้วย ไม่ว่าจะลงเล่นเกมไหนก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจริงๆ
2. แล้วน้องซาก้าล่ะ เก่งยังไงบ้าง?
โอ้โห ซาก้านี่เด็กปั้นของอาร์เซนอลเลยนะครับ เป็นตัวรุกที่เทคนิคดีมาก ทั้งความคล่องแคล่ว การสร้างเกมรุก และการยิงประตู ไม่แปลกใจเลยที่แฟนบอลชอบเขามากขนาดนี้
3. แรมส์เดลมีดีอะไรถึงได้เป็นมือหนึ่งของทีม?
แรมส์เดลนี่แหละครับ นายทวารที่เซฟได้สุดยอดมาก โดยเฉพาะจังหวะสำคัญๆ เขาช่วยทีมเก็บแต้มมาได้หลายครั้งแล้ว ความนิ่งและความมั่นใจของเขาทำให้แนวรับของเราแข็งแกร่งขึ้นเยอะเลย
4. คิดว่าอนาคตของทีมกับนักเตะชุดนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน?
ผมว่าพวกเขามีโอกาสพาทีมกลับไปยิ่งใหญ่อีกครั้งนะครับ ทั้งในอังกฤษและยุโรป ยิ่งเล่นก็ยิ่งมีประสบการณ์ เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ เราน่าจะได้เห็นพวกเขาพาทีมคว้าแชมป์มาครองแน่นอน